เมืองไทยมีจุดเด่นหลายอย่างที่ทั่วโลกยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร บริการสปา ฯลฯ ด้วยเหตุนี้เองทำให้โอกาสในการสร้างแบรนด์ไทยให้เติบโตในระดับโลกยังเป็นไปได้สำหรับทุกธุรกิจที่สามารถดึงจุดเด่นนี้ออกสู่ตลาดโลกได้ หนึ่งในแบรนด์ที่ทำสำเร็จแล้วคือ THANN (ธัญ) แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และในวันนี้เราจะพาทุกคนไปเรียนรู้ความสำเร็จของแบรนด์นี้

• ทำความรู้จัก THANN

THANN คือแบรนด์เครื่องหอมและความงามของไทยซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับโลก ก่อตั้งโดยคุณโอ๋ ฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ ผู้เริ่มต้นชีวิตการทำงานในต่างประเทศและค้นพบว่าสมุนไพรไทยคือจุดเด่นที่ต่อยอดไปสู่ระดับโลกได้ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องหอมอะโรมา หรือแม้แต่บริการสปา เมื่อกลับมาเมืองไทย คุณโอ๋จึงเริ่มต้นก่อตั้ง THANN ขึ้นเมื่อปี 2002 ตั้งแต่ยุคที่การใช้อะโรมาบำบัดยังไม่แพร่หลายในหมู่คนไทยมากนัก จุดเด่นของ THANN คือการผสานสมุนไพรไทยเข้ากับส่วนผสมที่ทั่วโลกรู้จักได้อย่างลงตัว

• จากแบรนด์ไทยสู่ธุรกิจระดับโลก

การจะสร้างแบรนด์ไปสู่ระดับโลกไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งกว่าที่ THANN จะมีสาขาในต่างประเทศก็ต้องใช้เวลาถึงสามปี โดยญี่ปุ่นและฝรั่งเศสเป็นสองประเทศแรกที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักแบรนด์เครื่องหอมสัญชาติไทย และทำให้คนไทยเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อ THANN ด้วย จากที่มองว่าเป็นแค่แบรนด์ไทยก็มองว่าเป็นแบรนด์ระดับอินเตอร์ และเมื่อต่างชาติยอมรับ คนไทยก็ยอมรับและหันมาใช้สินค้าของแบรนด์มากขึ้น เพราะลูกค้ามีความมั่นใจในมาตรฐานของแบรนด์ ลูกค้าคนไทยต่างก็รู้ว่าการที่ THANN เป็นที่ยอมรับในระดับสากลแสดงว่าต้องมีมาตรฐานจนทั่วโลกยอมรับ ทำให้เกิดความมั่นใจในสินค้าของ THANN มากขึ้น 

• THANN บริหารงานในต่างประเทศอย่างไร

เมื่อนำธุรกิจก้าวไปสู่ระดับอินเตอร์ ก็เท่ากับว่าโอกาสในการขยายตลาดมีได้อย่างมากมาย ซึ่งกว่าจะไปถึงจุดนั้นก็ไม่ง่ายเช่นกัน เพราะต่างพื้นที่ก็ย่อมต่างวัฒนธรรมกัน ความต้องการของผู้คนก็ต่างกัน ซึ่ง THANN ก็ตระหนักในเรื่องนี้ จึงเน้นมองหาคู่ค้าที่เก่งทั้งด้านการตลาดและธุรกิจค้าปลีก เพราะจะเข้าใจได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร รวมถึงพร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับพื้นที่นั้นโดยไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งในปัจจุบัน THANN มีสาขาอยู่ใน 15 ประเทศ และกำลังมุ่งเป้าหมายไปที่การเติบโตในจีนและขยายธุรกิจเข้าสู่ตะวันออกกลาง ซึ่งสำหรับธุรกิจใดก็ตามเมื่อก้าวสู่ระดับอินเตอร์ นอกเหนือจากที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและผู้คนใหม่ ๆ แล้ว ก็จำเป็นต้องใช้การ โอนเงินแบบ swift code เพื่อทำให้ธุรกรรมเป็นไปได้อย่างคล่องตัว

• จะเป็นแบรนด์อินเตอร์ต้องมีเทคนิค โอนเงินต่างประเทศ

สิ่งสำคัญมากของการขยายธุรกิจไปสู่ระดับโลกคือการโอนเงินต่างประเทศระบบที่ทั่วโลกใช้กันคือ โอนเงินแบบ swift code ซึ่งการเลือกว่าจะ โอนเงินไปต่างประเทศ swift code กับธนาคารไหนดี ควรเลือกจากความรวดเร็ว อัตราแลกเปลี่ยน และ ค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างประเทศ สำหรับบริการ โอนเงินแบบ swift code ที่คุณโอ๋เลือกใช้คือ Krungthai WARP (กรุงไทย วาร์ป) 

• แนะนำ Krungthai Warp บริการ โอนเงินไปต่างประเทศ swift code จากธนาคารกรุงไทย

Krungthai Warp คือบริการ โอนเงินต่างประเทศ จากธนาคารกรุงไทย โดยเป็นการโอนผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT จุดเด่นคือ ค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างประเทศ เริ่มต้นที่ 299 บาท เมื่อโอนออกจาก Krungthai Travel Card หรือบัญชี FCD สูงสุด 500,000 บาทต่อรายการ โดยค่าธรรมเนียมนี้สามารถโอนเงินไปยังสี่ประเทศด้วยสกุลเงินของประเทศนั้นคือ สิงคโปร์ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ นอกจากเรื่อง ค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างประเทศ ที่ถูกกว่าแล้ว อีกสิ่งที่ทำให้หลายคนเลือกใช้ Krungthai Warp คือความรวดเร็วแบบเรียลไทม์ รวมถึงยังมีอัตราแลกเปลี่ยนเรทพิเศษเมื่อโอนออกจาก Krungthai Travel Card และเมื่อเป็นการทำรายการผ่านแอป จึงสามารถทำรายการด้วยตัวเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังจะนำแบรนด์ไทยไปสู่ระดับโลกอย่างที่ THANN ได้ทำสำเร็จมาแล้ว คุณคงได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของ THANN ว่าการเลือกกลุ่มเป้าหมายและทำสินค้าให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ และเมื่อต้องเลือกว่าจะ โอนเงินไปต่างประเทศ swift code กับธนาคารไหนดี คุณก็คงรู้แล้วว่าจะเลือกโอนกับที่ไหน เพราะขนาดแบรนด์ระดับอินเตอร์ยังเลือกใช้ ก็ไม่มีเหตุผลที่คุณจะปฏิเสธจุดเด่นของ Krungthai Warp ซึ่งหากคุณต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ที่เว็บไซต์ Krungthai.com