สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังจด ๆ จ้อง ๆ อยากลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต แต่กังวลกับการขาดทุน หรือ “ตามแนวโน้มการลงทุนไม่ทันสถานการณ์” จนอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อเงินออมที่มีอยู่นั้น สามารถใช้ “กองทุนรวม” เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาและข้อกังวลใจสำหรับนักลงทุนมือใหม่ได้ เนื่องจากการลงทุนผ่าน กองทุน นั้นจะมีผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่มีความเป็นมืออาชีพคอยติดตามสถานการณ์และตัวแปรต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจบริหารเงินลงทุนตามหลักการและมาตรฐานที่ควรเป็น 

       นอกจากนี้การ ซื้อกองทุน นั้น ยังมีข้อดีอีกมากมายที่สอดคล้องกับสไตล์ของนักลงทุนมือใหม่อย่างลงตัว ได้แก่ 

1. ใช้งบประมาณน้อย ซึ่งกรณีที่นักลงทุนเริ่มต้นเข้าลงทุนนั้นสามารถใช้เงินหลักพันบาทต่อเดือนเพื่อ ซื้อกองทุน สะสมไปเรื่อย ๆ และยังสะดวกง่ายดายมากขึ้นเพราะปัจจุบันนี้สามารถสั่ง ซื้อขายกองทุนผ่านแอพ บนโทรศัพท์มือถือได้ทุกที่ทุกเวลา 

2. นักลงทุนมือใหม่ สามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์หรือหุ้นประเภทกิจการต่าง ๆ  ได้อย่างหลากหลายตามสไตล์ที่ต้องการ เพราะ กองทุน ที่มีการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อระดมเงินจากนักลงทุนไปใช้ลงทุนในกิจการต่าง ๆ นั้นจะมีการกำหนดแผนลงทุนไว้ชัดเจนก่อนแล้ว เช่น การเข้าลงทุนใน ทองคำ, น้ำมัน, หุ้นในประเทศ, หุ้นต่างประเทศ DR, หุ้นเกี่ยวกับธุรกิจเฮลท์แคร์, หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ลงทุนพันธบัตรรัฐบาล หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ดังนั้นหากนักลงทุนมือใหม่กังวลใจกับการลงทุนในหุ้นที่อาจมีความผันผวนหรือเสี่ยงสูงก็อาจเลี่ยงไปลงทุนในกลุ่มทองคำหรือน้ำมัน ผ่าน กองทุนรวม ก็ได้ 

3. นักลงทุนมือใหม่ สามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุนโดยกระจายการลงทุนผ่านกองทุนประเภทต่าง ๆ ได้ 

4. ไม่ต้องห่วงเรื่องสภาพคล่อง เพราะการลงทุนผ่านกองทุนนั้นถือว่ามีสภาพคล่องค่อนข้างสูงโดยสามารถซื้อและขายได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ดังนั้นหากมีความจำเป็นต้องใช้เงินสดก็สามารถขายหน่วยลงทุนที่ถืออยู่และรับเงินสดแทนได้ในเวลาอันสั้น 

5. นักลงทุนสามารถลงทุนแบบ “ทะยอยสะสม” เป็นรายเดือนเพื่อเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนในระยะยาว ในลักษณะที่เรียกว่า “Dollar Cost Average” หรือ DCA ซึ่งตามหลักการแล้ว วิธีการทะยอยแบบนี้จะทำให้ต้นทุนเฉลี่ยในระยะยาวมีโอกาสต่ำลงกว่าการลงทุนในระยะสั้นหรือลงทุนเพียงครั้งเดียวได้

6. นักลงทุนมือใหม่สามารถเลือกลงทุนในกองทุนประเภทลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี ซึ่งก็คือกองทุน SSF หรือ RMF ซึ่งวงเงินที่ซื้อกองทุนประเภทนี้จะสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาในปีที่ซื้อได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดด้วย จึงถือว่าเป็นการสร้างแต้มต่อให้กับการลงทุนนั่นเอง 

ปัจจุบันการฝากเงินในธนาคารเพื่อรอรับดอกเบี้ยเงินฝาก ดูจะไม่ใช่ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนมือใหม่แล้วเนื่องจากผลตอบแทนในตลาดเงินค่อนข้างต่ำ การเลือกลงทุนกองทุนรวมที่มีความเป็นมืออาชีพจึงน่าจะตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนได้ดียิ่งขึ้น