ปี 2564 ถือเป็นอีกปีที่ผลตอบแทนการฝากเงินลดลงอย่างต่อเนื่องโดยจะเห็นได้จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยหลายครั้ง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินทั่วไปลดลงด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยออมทรัพย์หรือ ฝากประจำ ล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับเฉลี่ยเพียง 1% เท่านั้น ทำให้หลายๆ คนต่างหาที่พักเงินที่ได้รับค่าตอบแทนที่ดีกว่าการฝากประจำ ซึ่งแนวทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ การลงทุน ทั้งในหุ้น ตราสารทางการเงิน ทองคำและ กองทุน ต่าง ๆ
แม้ว่า การลงทุน ในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ จะให้ผลตอบแทนค่อนข้างน่าพอใจกว่าการฝากประจำหรือฝากออมทรัพย์ แตก่ารลงทุนนั้นมีความเสี่ยงสูงกว่าการฝากเงินแน่นอน วันนี้เราได้จุดเด่นและความเสี่ยงของ การลงทุน ประเภทต่าง ๆ มาไว้ให้นักลงทุนได้พิจารณาตัดสินใจเลือกแหล่งพักเงิน
-
หุ้น เป็นแหล่งลงทุนยอดนิยมของผู้คนยุคใหม่ โดยสามารถซื้อขายได้ง่ายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ความน่าสนใจของการซื้อ-ขายหุ้นคือผลต่างจากราคาหุ้นที่ขึ้นลงอย่างต่อเนื่องและการได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล ในกรณีที่บริษัทจดทะเบียนมีผลกำไรจะมีการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นนั่นเอง แต่กระนั้นก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนจากราคาที่ลดลงได้เช่นเดียวกัน
-
หุ้นกู้ เป็นตราสารหนี้อีกประเภทที่ได้รับความนิยมสูงเพราะมีการให้ผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอและส่วนใหญ่จะมีอัตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ โดยตราสารชนิดนี้เป็นเสมือนหลักฐานการกู้ยืมเงินที่บริษัทต่าง ๆ ออกให้สำหรับการระดมเงินทุนในแต่ละครั้ง แต่การถือตราสารประเภทนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการผิดนัดชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้น ดังนั้นการเลือกถือหุ้นกู้ส่วนใหญ่จะต้องดูอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ Credit Rating ด้วยเพื่อลดความเสี่ยงลง
-
ทองคำ เป็นสินทรัพย์อีกประเภทที่ผู้คนนิยมถือไว้เพื่อลงทุนและจะได้ประโยชน์จากการขึ้นลงของราคาในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งตัวแปรที่มีผลให้ราคาทองคำขึ้นลงนั้นก็คือราคาในตลาดโลกและอัตราแลกเปลี่ยน (exchange rate) ระหว่างเงินบาทกับดอลล่าร์สหรัฐ ทั้งนี้ในกรณีที่ exchange rate ของเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐจะทำให้ราคาทองคำในประเทศลดลงหรือปรับตัวขึ้นตามราคาในตลาดโลกได้อย่างจำกัด แต่ในทางตรงกันข้ามหากว่า exchange rate ของเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐทิศทางของราคาทองคำในประเทศจะเพิ่มขึ้นได้มาก ซึ่งเป็นโอกาสทำกำไรของผู้ที่ถือทองคำไว้นั่นเอง
-
กองทุน เป็นอีกแนวทางการสร้างผลตอบแทนของเงินออมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบันเนื่องจากจะมีผู้เชี่ยวชาญทางการเงินแบบมืออาชีพมาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ กองทุน คอยบริหารเงินลงทุนให้กับนักลงทุนทั่วไป ซึ่งแต่ละกองทุนจะมีนโยบายการลงทุนที่ชัดเจนว่าจะเข้าลงทุนในสินทรัพย์ใด อย่างเช่น หุ้น หุ้นกู้ อสังหาริมทรัพย์ หรือทองคำ เป็นต้น และเมื่อได้ผลตอบแทนกลับคืนมาจะนำมาจ่ายเป็นเงินปันผลคืนให้กับผู้ถือกองทุนนั่นเอง โดยความเสี่ยงของวิธีลงทุนแบบนี้คือการขึ้นลงของราคาหน่วยลงทุน (NAV) ที่จะทำให้มูลค่าของหน่วยลงทุนที่ถือไว้เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้นั่นเอง
ทำให้หลายๆ คนจึงมักจัดพอร์ตเงินออมแยกไว้เป็นส่วน ๆ เฉลี่ยให้มีทั้งเงินฝากและเงินลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนการออมให้มากกว่าการฝากเงิน ซึ่งถือเป็นวิธีบริหารการเงินอย่างชาญฉลาดในปี 256 ดูเพิ่มเติม https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/home-loans/refinance-loan.html