การฝากเงินไว้ในธนาคารเพื่อผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเป็นทางเลือกของการออมเงินที่หลายๆ คนแทบไม่สนใจแล้วเพราะผลตอบแทนต่ำเป็นอย่างมาก หลายๆ คนจึงเลือกประกันสะสมทรัพย์ที่จะช่วยให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นหรืออย่างน้อยผลตอบแทนต้องสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ

การซื้อ ประกันสะสมทรัพย์ จึงเป็นอีกวิธีที่น่าสนใจเพราะเมื่อเทียบผลตอบแทนที่จะได้รับทั้งในเรื่องของดอกเบี้ย, การลดหย่อนภาษี และการคุ้มครองชีวิตไปด้วยพร้อมกันแล้วนั้น ถือว่ามีความคุ้มค่ามาก ๆ วันนี้เรามาสรุปให้ฟังกัน

1. ประกันชนิดสะสมทรัพย์ เป็นรูปแบบการทำประกันชีวิตที่เน้นการออมเงิน ซึ่งหลายคนมักเรียกว่าเป็น ประกันออมทรัพย์ โดยผู้ที่ทำประกันประเภทนี้ จะต้องส่งเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ เมื่อครบกำหนด บริษัทประกันจะจ่ายเงินให้ ทั้งในรูปของการจ่ายคืนเป็นเงินก้อนแบบครั้งเดียว และแบบทะยอยมีเงินจ่ายให้ตลอดอายุสัญญาในกรมธรรม์ แต่หากเสียชีวิตระหว่างทางผู้รับผลประโยชน์ก็จะได้รับ “เงินเอาประกัน” ตามจำนวนที่กรมธรรม์ระบุไว้ 

2. เป็นการวางแผนออมเงินที่มีรูปแบบ เพราะรู้ว่าในช่วงใดจะมีเงินก้อนจากสัญญากรมธรรม์ประกันออมทรัพย์จ่ายคืนมาให้ แต่ในกรณีที่เป็นประกันชนิดอื่น เช่น ประกันอุบัติเหตุ จะได้เงินก้อนก็ต่อเมื่อผู้ทำประกันเสียชีวิตลง หรือประสบเหตุต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ 

3. มีเงินก้อนให้คนข้่งหลัง หากเกิดเหตุที่ผู้ทำประกันต้องเสียชีวิตลงก่อนครบอายุสัญญา 

4. ผลตอบแทนจากการทำประกันชีวิตประเภทนี้ ไม่ต้องเสียภาษี 

5. สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท 

โดยทั่วไป ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์  ประกันออมทรัพย์จากกรุงไทย จะมีเงื่อนไขกำหนดระยะเวลาในการส่งเบี้ยประกันน้อยกว่าระยะเวลาคุ้มครอง อาทิเช่น ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ 7/15 หมายถึงจะต้องส่งเบี้ยประกันเป็นระยะเวลา 7 ปี แต่กรมธรรม์จะให้ความคุ้มครองเป็นระยะเวลา 15 ปี หากเสียชีวิตในช่วงเวลานี้ ก็จะได้รับเงินก้อนตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ หากอยู่ครบก็ได้รับเงินก้อนและผลประโยชน์ครบครัน

ใครบ้างที่เหมาะจะทำประกันประเภทนี้