เมื่อการออมเงินกลายเป็นสิ่งที่หลายๆ คนต่างใส่ใจเพราะด้วยสภาพเศรษฐกิจที่คาดเดาไม่ได้ในปัจจุบัน รวมถึงไลฟ์สไตล์นั้น หนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่ได้ดี นั่นคือประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ จะเป็นอย่างไรและมีข้อน่าสนใจตรงไหนบ้างมาดูกัน
-
ประกันชีวิตออมทรัพย์ ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความคุ้มครองและผลประโยชน์ด้านการเงิน
ประกันชีวิตออมทรัพย์ คือประกันชีวิตที่บริษัทประกันภัยจะทำการจ่ายเงินให้หากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา หรือหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาเอาประกันทางบริษัทประกันภัยจะทำการจ่ายให้กับผู้รับประโยชน์แทน โดยสามารถเพิ่มการคุ้มครองในด้านอื่นๆ ที่สนใจเช่น การเพิ่มความคุ้มครองด้าน ประกันอุบัติเหตุ หรือ ประกันโรคร้ายแรงโดยผู้เอาประกันจะได้รับประโยชน์ทั้งจากความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์และประโยชน์จากเงินที่จะได้รับกลับคืน
-
จ่ายค่าเบี้ยไปไม่สูญเปล่า ได้รับกลับคืน
โดยทั่วไปหากเราซื้อ ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพเหมาจ่ายของกรุงไทย ประกันชีวิตผู้สูงอายุ หรือแม้แต่ ประกันภัยโควิด ก็จะเป็นการซื้อประกันในรูปแบบจ่ายค่าเบี้ยเพื่อรับความคุ้มครอง หากไม่เกิดการเจ็บป่วย ไม่เกิดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ไม่เกิดการสูญเสีย และไม่ได้กลายเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาล หรือเงินชดเชยตามระบุในกรมธรรม์และไม่ได้รับเงินค่าเบี้ยคืนกลับมาด้วยเช่นกัน แต่การทำประกันชีวิตแบบออมทรัพย์นั้นเราจะได้คืน เช่น ได้รับเงินคืนรายปีตามรอบที่กำหนด เงินคืนเมื่อครบอายุสัญญา และการให้ความคุ้มครองโดยไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยรายปี สำหรับแผนประกันที่กำหนดตัวเลขสองตัวไม่เท่ากัน เช่น 15/5 ซึ่งมีความหมายว่าจ่ายค่าเบี้ยเพียง 5 ปี คุ้มครองยาวนาน 15 ปี ดูตัวอย่างได้จากประกันชีวิตสะสมทรัพย์ Life Save Plus 15/5 จากธนาคารกรุงไทย
-
ได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนต่างสนใจสมัครประกันสะสมทรัพย์คือการที่ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ให้ผลประโยชน์ทางภาษี มีความโดดเด่นกว่าการลงทุนประเภทอื่น ๆ ที่นอกจากจะไม่ได้รับประโยชน์ทางภาษีแล้วยังต้องเสียภาษีมากน้อยต่างกันไปอีกด้วย เช่น การออมเงินในบัญชีฝากประจำ การซื้อกองทุนรวม จึงเหมาะกับผู้ต้องการผลประโยชน์ด้านภาษี ด้านเงินออม และด้านความคุ้มครองในเวลาเดียวกัน
-
เน้นความครอบคลุม ไม่เน้นมูลค่าผลตอบแทน
ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ เป็นการผสมผสานระหว่างความคุ้มครองและผลตอบแทนด้านการเงิน ดังนั้นเมื่อนำผลตอบแทนที่ได้จากประกันชีวิตสะสมทรัพย์ไปเปรียบเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น ๆ ก็จะเห็นว่าประกันชีวิตสะสมทรัพย์ให้ผลตอบแทนไม่สูงเท่า วงเงินคุ้มครองก็มักจะไม่สูงเท่าการซื้อประกันแบบเดี่ยว ๆ เช่นเดียวกัน ทำให้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ต้องการเน้นในเรื่องของผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว
-
สภาพคล่องไม่ดีเท่าการออมเงินในบัญชีออมทรัพย์
ผู้ทำปประกันออมทรัพย์ กรุงไทยจะไม่สามารถเบิกถอนเงินออกมาได้อย่างสะดวกสบายเหมือนฝากเงินไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ แต่จะสามารถเบิกถอนเงินออกมาได้จากการเวนคืนกรมธรรม์ซึ่งจะทำให้ได้รับเงินคืนไม่เต็มจำนวน เนื่องจากถือเป็นการยกเลิกกรมธรรม์ก่อนครบอายุสัญญา ดังนั้นก่อนทำประกันชีวิตสะสมทรัพย์ควรคิดวางแผนให้ดีว่าเงื่อนไขความคุ้มครอง ค่าเบี้ยที่ต้องจ่ายตามงวด และความคุ้มครองตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุดหรือไม่ ดีกว่าที่จะเวนคืนกรมธรรม์กลางคันทำให้ไม่ได้รับประโยชน์กลับมาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่ควรจะเป็น
หากอ่านข้อมูลเบื้องต้นของประกันชีวิตออมทรัพย์แล้วสนใจ สามารถลองศึกษาเปรียบเทียบรายละเอียดจากเว็บไซต์ของธนาคารต่าง ๆ หรือปรึกษากับเจ้าหน้าที่ธนาคารสาขาที่สะดวกก่อนตัดสินใจ โดยดูข้อมูลของ ประกันออมทรัพย์ที่
https://krungthai.com/th/personal/insurance/life-insurance/detail/558 หรือ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่
https://krungthai.com/th/personal/insurance/health/detail/514